#กับสายฟ้าที่หายไป

สิ่งที่หายไปของรองเท้าวิ่ง Mizuno คืออะไร ???

“รองเท้าซ้อมแจ่มๆ เฟี้ยวๆ” 

สายวิ่งสำหรับ Mizuno แล้ว Rebellion Pro ยังเป็นตัวที่ยืนหนึ่งที่สุด เป็นภาพจำหลักของแบรนด์ ส่วนรุ่นอื่นๆ เช่น Rider , Inspire , Sonic ก็ดูยังไม่เข้ากลุ่มกับการนำมาซ้อมวิ่งเร็วแบบจริงจังเท่าไร

แล้วตอนนี้ก็ได้สายฟ้าที่หายไปกลับมาแล้วคือ “Rebellion Flash 2” ซึ่งถูกวางตำแหน่งให้เป็นรองเท้าสำหรับใช้ในการฝึกซ้อมทำความเร็ว (Pro 2 แข่ง) เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตัวแข่ง

รวมถึงจะเอารองเท้าแข่งมาใส่ซ้อมบ่อยๆ มันก็กระไรอยู่  Mizuno จึงปรับรุ่นที่อยู่ในซีรี่ย์เดียวกันใหม่ให้สมบูรณ์ สอดคล้อง และเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

Rebellion Flash 2 จึงได้กำเนิดเป็นตัวซ้อมกึ่งแข่งหลักของแบรนด์อย่างชัดเจนเพียงหนึ่งเดียวเลย ซึ่งจะบอกเลยว่า มันดีมาก ดีแบบที่เราไม่ได้คาดคิดเหลือเกิน

แม้ว่าดูหน้าตาภายนอกแล้ว แทบแยกไม่ออกกับ Rebellion Pro 2 ทั้งดีไซน์ สเปค แทบจะถอดแบบกันมาเลย แต่ก็มีส่วนที่ต่างอยู่บ้างทั้งในแง่ สเปคและความรู้สึกตอนใช้งาน

——————–

#Spec

#Upper

หน้าผ้า Mesh Upper (บางข้อมูลคือ Breathable Air Mesh) ซึ่งมีความแข็งแรง คงตัว ทนทาน เหมือนให้อายุการใช้งานยาวนานกว่า แม้ว่าจะใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตก็ตาม ส่วนหน้าผ้านี้คือ ส่วนที่แตกต่างจากตัว Pro 2

#Midsole

แทบจะไม่แตกต่างจาก Rebellion Pro 2 เลย ที่โฟมชั้นกลางออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งท๊อปสุดของแบรนด์ในเวลานี้

-ชั้นบน โฟม Enerzy Lite Plus เทคโนโลยีท๊อปสุดและใหม่ล่าสุดของแบรนด์ที่นุ่มนวล ซัพพอร์ต แต่ยังคงดีด เด้ง นุ่มนวล และเบาสุดๆ 

-ชั้นล่าง โฟม Enerzy Lite ที่แข็งแรง มั่นคง ไม่ยวบ รองรับแรงกระแทกได้ดี และส่งแรงกลับให้ประหยัดพลังงานขามาก

-ชั้นกลาง แทรกด้วยแผ่น Mizuno Wave Plate (ไฟเบอร์กลาส+ไนล่อน)

ผลิตโดย Rilsan® จากวัสดุรีไซเคิล เพิ่มความเสถียรด้วย ไม่ทิ้งความนุ่มนวลถนอมขาและเท้า รวมถึงเป็นมิตรกับเท้าและขากว่าแผ่นคาร์บอนเพียวๆ

#Outsole

“G3 Sole” คือ พื้นรองเท้าส่วนนอกที่ใช้ในเกือบทุกรุ่น แต่ใน Flash 2 แผ่นยาง ดีไซน์ใหม่ไม่เหมือนรุ่นไหน เรียกว่า หนากว่า ทนกว่า (ปกติก็ทนมากอยู่แล้ว) และยึดเกาะสูง “หนึบ” มาก ถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์มาก

#เทคโนโลยี_SMOOTH_SPEED_ASSIST (rocker shape) 

โครงสร้างรองเท้าที่จะส่งให้ความเร็วเพิ่มขึ้นโดยใช้พลังงานน้อยลง แม้ว่าจะเทคโนโลยีเดียวกัน แต่ถ้าเทียบความรู้สึกกับ Pro 2 จะรู้สึกว่าตัวนี้เทไปข้างหน้าน้อยกว่า มั่นคงกว่า นิ่งกว่า ใส่ง่ายกว่าเยอะเลย

#อื่นๆ

Weight : 245g (M9)

Offset : 32/35 mm.

Drop : 3 mm.