รีวิว Mizuno Wave Rebellion Pro 2
#ปฏิวัติยกกำลัง2 #รองเท้าวิ่งสายขบถ
หลังจากที่ Rebellion Pro รุ่นแรกได้เขย่าวงการรองเท้าวิ่งทั้งในแง่การใช้งาน ความรู้สึก และยอดขายอย่างถล่มทลาย เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์แบรนด์อย่างรวดเร็วฉับพลันสมชื่อรุ่น
จนมาใน Rebellion Pro 2 ที่กลับมาพร้อมกับการ “ปรับปรุง” ในจุดที่ยัง “ขัดใจ” นักวิ่งแล้ว
ปัญหาหลัก 2 ส่วนที่พบในตัวแรกเลยคือ
#Midsole ตรงกลางเท้าที่คว้านออกไป ทำให้ความมั่นคงในการวิ่งน้อยมาก ยิ่งถ้าเป็นคน “เท้าล้มใน” จะไม่สามารถใส่ได้เลย เท้าจะบิดเข้าด้านในโดยไม่มีอะไรประคองเลย
#HeelCup ส่วนที่นักวิ่งหลายท่านเจออาการบาดเอ็นร้อยหวาย (ส่วนตัวไม่เจอ) อาจจะด้วยความหนาเกินไป หรือทรงที่ไม่สมส่วนก็ตาม
โดยทั้งหมดได้ถูก “ปรับปรุง” ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นใน Rebellion Pro 2
1. Midsole ที่ออกแบบให้เต็มทั้งฝ่าเท้า (เว้นช่องกลาง) เพื่อให้นักวิ่งลงเท้าได้อย่างมั่นใจ มั่นคงและเป็นมิตรทุกย่างก้าว ออกแบบให้นักวิ่งทุกท่านสามารถสวมใส่ได้ง่ายขึ้น
2. Heel Cup ออกแบบใหม่ให้บาง ทันสมัย แต่มั่นคง สมเป็นตัวท๊อป ไม่บาดเอ็นร้อยหวายแล้ว
3. โฟมใหม่ล่าสุด Enerzy Lite Plus ที่อยู่ในชั้นกลาง ช่วยให้การตอบสนองและความซัพพอร์ตมากยิ่งขึ้นในรองเท้าแข่ง
ด้วยการปรับปรุงจุดต่างๆ ที่มองผ่านๆ เหมือนจะปรับไม่เยอะเท่าไร (ก็ของเดิมดีอยู่แล้ว) แต่จริงๆ เปลี่ยนไปค่อยข้างเยอะ ยิ่งถ้าได้ใส่ตัวแรกอยู่จะรู้สึกได้เลยว่ามันยอดเยี่ยมขึ้นอย่างมาก
สำหรับนักวิ่งที่ยังไม่เคยลอง Rebellion Pro 2 ท่านจะชอบมันมากๆ เพราะมันคือรองเท้าที่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่สวมใส่เลย สมควรแก่การมีไว้ครอบครองอย่างยิ่ง
——————–
#Spec
#Upper
หน้าผ้าใช้เป็น Breathable Mesh Upper แบบเดิมกับตัว Pro 1 แต่ดีไซน์ใหม่ให้ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น และยังคงโปร่ง บาง เบา นุ่ม ระบายอากาศได้ดีใส่สบายมาก และวัสดุเจ๋งสุดๆ แถมยังใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตด้วย
#Midsole
ทีเด็ดของ Mizuno Wave Rebellion Pro 2 เลยก็ว่าได้ ที่พัฒนาโฟมชั้นกลางออกเป็น 3 ส่วน และใส่โฟมใหม่ล่าสุดเข้ามาด้วย
-ชั้นบน โฟม Enerzy Lite Plus เทคโนโลยีท๊อปสุดและใหม่ล่าสุดของแบรนด์ที่นุ่มนวล ซัพพอร์ต แต่ยังคงดีด เด้ง นุ่มนวล และเบาสุดๆ
-ชั้นล่าง โฟม Enerzy Lite ที่แข็งแรง มั่นคง ไม่ยวบ รองรับแรงกระแทกได้ดี และส่งแรงกลับให้ประหยัดพลังงานขามาก
-ชั้นกลาง แทรกด้วยแผ่น Mizuno Wave Plate (คาร์บอน30%,ไนล่อน70%) ที่ขยายใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อน
ผลิตโดย Rilsan® จากวัสดุรีไซเคิลจากพืชมากกว่า 90% เพิ่มความเสถียรด้วยไม่ทิ้งความนุ่มนวลถนอมขาและเท้า
#Outsole
“G3 Sole” คือ พื้นรองเท้าส่วนนอก เป็นดอกยางขนาดเล็ก นํ้าหนักเบา ยึดเกาะสูง รองรับการวิ่งเร็วอย่างมั่นใจ ที่สำคัญ ทนมาก ทนจริงๆ เสริมให้เป็นจุดแข็งสำคัญมากของรองเท้าซีรี่ย์นี้
#เทคโนโลยี_SMOOTH_SPEED_ASSIST (rocker shape)
ทรงรองเท้าที่จะส่งให้ความเร็วเพิ่มขึ้นโดยใช้พลังงานน้อยลง และยังให้ความนุ่มนวลและลื่นไหลกับส่วนหน้าเท้า
#อื่นๆ
Wight : 215g (9us)
Offset : 33.5mm / 38.0mm
Drop : 4.5mm
#เปรียบเทียบกับตัวเดิม
RebellionPro2
-นํ้าหนักเบากว่าเดิม
-มั่นคงกว่า ลงเท้าได้เต็มกว่า มั่นใจกว่า
-สูงกว่าเดิม
-ไม่เกิดอาการเท้าล้มในแล้ว
-Heel Cup เปลี่ยนใหม่ ไม่กัดเอ็นร้อยหวายแล้ว
-เชือก หน้าผ้า โครงสร้าง แทบจะเหมือนเดิม
-พุ่งมากกว่าเดิม (หลายคนอาจจะกลัว)
-โฟม Enerzy Lite Plus นุ่ม และช่วยให้สบายเท้ากว่าเดิมเยอะเลย
-Size ไม่ต้องเผื่อแล้ว
#เหมาะกับใคร
-คนที่อยากลอง Rebellion (โดยเฉพาะคนที่ซื้อตัว 1 ไม่ทัน)
-คนที่ติดใจ Pro 1 (2 แจ่มกว่าเลย)
-คนที่หารองเท้าใหม่ๆ แบบใหม่ๆ ที่แทบจะไม่เหมือนใคร
-คนที่หารองเท้าวิ่งเร็ว ทั้งซ้อมและแข่งในคู่เดียว
-ไม่เหมาะกับใส่วิ่งทุกวัน
——————–
#สรุปและความคิดเห็น
-ใส่ครั้งแรกก็รู้เลยว่า “พุ่ง”
-รองเท้าพาไปด้านหน้าตลอด
-รู้สึกเองว่าสูงกว่าเดิม เทกว่าเดิม
-รองเท้าใส่สบายมากกว่าเดิมพอสมควร
-นํ้าหนักเบาขึ้นกว่าเดิม จากโฟมใหม่
-รวมถึงให้ความรู้สึกซัพพอร์ตขึ้น
-รองเท้า แน่น เด้ง หนึบ ตอบสนองได้ดีมาก
-พื้นทนมาก น่าจะรองเท้าแข่งที่พื้นทนที่สุด
-เท้ากว้างอาจจะไม่ไหว
-เท้าล้มใส่ได้แล้ว
-ช่วงแรกอาจจะไม่ชิน แต่จูนกันไม่นาน
-ใส่ตรง Size สบายกว่าเดิม ไม่ต้องเผื่อ
-สีรองเท้า (ส่วนตัวชอบสีจี๊ดๆ) ใครชอบเรียบๆ โดนแน่
-ราคาเดิม สเปค เทคโนโลยี คุ้มค่ามาก
#ซื้อออออออออออออออ
——————–
????Mizuno Wave Rebellion Pro 2
ราคา 7,000 บาท